Back to Corporate Site

สาส์นจากประธานกรรมการ

“บริษัทฯ ยังคงยึดมั่นในหลักจริยธรรมและความถูกต้องตามกฎหมายไปพร้อมกับการพัฒนาคู่ค้าให้ครอบคลุมหลักการที่ดีทั้งห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) เพื่อสร้างประโยชน์แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายรวมถึงสังคมโดยรวมเพื่อนำศุภาลัยก้าวไปข้างหน้า เติบโตอย่างมั่นคง พร้อมขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจทีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการจัดการพลังงานอย่างยั่งยืน”

เรียน ท่านผู้ถือหุ้น

ปี 2566 ที่ผ่านมา เป็นปีที่มีความท้าทายการดำเนินธุรกิจภายใต้ภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจมีแนวโน้มเติบโตไปในทิศทางทีดีขึ้นบ้าง จากเงินเฟ้อที่ทรงตัว ในปีนี้บริษัทฯ สามารถเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งโครงการแนวราบและโครงการอาคารชุด รวม 26 โครงการ มูลค่ารวม 29,640 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการแนวราบ 23 โครงการ (กรุงเทพฯ และปริมณฑล 8 โครงการ ภูมิภาค 15 โครงการ) และโครงการอาคารชุด 3 โครงการ

และปลายปี 2566 ทีผ่านมา บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญาร่วมลงทุนกับ Stockland Communities Partnership HoldCo Pty Ltd ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์แนวหน้าในประเทศออสเตรเลีย จัดตั้งกิจการร่วมค้าในชื่อ "SSRCP HoldCo Pty Ltd” ด้วยมูลค่าเงินลงทุน 12,600 ล้านบาท พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพิ่มอีก 12 โครงการ มูลค่าโครงการ 137,700 ล้านบาท ใน 4 รัฐ 5 เมืองสำคัญในประเทศออสเตรเลีย ทำให้ปัจจุบันมีการพัฒนาโครงการแล้วรวม 24 โครงการ มูลค่าโครงการ 187,700 ล้านบาท คิดเป็นเงินทุนรวม 22,300 ล้านบาท โครงการที่ซื้อใหม่จะสามารถรับรู้รายได้ในปี 2567 เพราะเป็นโครงการที่ได้เริ่มพัฒนาไปส่วนหนึ่งแล้ว

ที่ผ่านมาบริษัทฯ เน้นพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน มุ่งมั่นสร้างนวัตกรรมการออกแบบบ้านแบบใหม่ โดยเน้นนวัตกรรมการให้บริการลูกค้าควบคู่กับการใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมรอบด้าน โดยมีโครงการ “ศุภาลัย สร้างดี” พร้อมขับเคลื่อนนวัตกรรมที่อยู่อาศัยสีเขียว ด้วยการคัดสรรวัสดุการก่อสร้างเน้นประหยัดพลังงาน ลดความร้อน ลดการใช้น้ำ ลดขยะ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ด้วยการจัดโครงการ Waste Management รวมถึงเพาะบ่ม “การสร้างดี” ในทุก ๆ กระบวนการตั้งแต่กระบวนการขายไปจนถึงหลังการขาย และนำเทคโนโลยีมาร่วมปรับใช้กับทุกกระบวนการควบคู่กับการพัฒนากระบวนการปฏิบัติงาน และการพัฒนาบุคลากรผ่านโครงการ Agile Transformation

ความมุ่งมั่นดังกล่าว ทำให้บริษัทฯ ได้รับรางวัลบริษัทยอดเยี่ยมแห่งปี 2566 กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง Best Public Company - Property and Construction Industry 2023 โดยมีผลการจัดอันดับเป็นที่ 1 ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง รวมทั้งได้รับรางวัลเกียรติยศจากองค์กรชั้นนำต่าง ๆ จำนวนมาก ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันความน่าเชื่อถือที่มีต่อบริษัทฯ อาทิเช่น รางวัลฉลากแบบอาคารอนุรักษ์พลังงาน 2565 ระดับดีมาก ประเภทอาคารชุด จากกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน (BEC Awards 2022), รางวัล LIVINGINSIDER AWARDS 2023 สาขา BEST NATURAL HOME เพื่อเป็นการเชิดชูผลงานของผู้ประกอบการและนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ที่สามารถทำผลงานได้ยอดเยี่ยม, ได้รับการจัดอันดับรายชื่ออยู่ในทำเนียบ Best Under A Billion ยอดเยี่ยมแห่งเอเชียประจำปี 2023 จาก Forbes Asia, รางวัลหนังสือชมเชย ผู้ช่วยเหลือราชการกรมป่าไม้, รางวัลอสังหาริมทรัพย์ดีเด่น FIABCI – Thai Prix D’ Excellence Awards 2023 ต่อเนื่องติดต่อกันเป็นปีที่ 5, รางวัลในโครงการฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพพลังงาน (ฉลาก ประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5) ประเภทบ้านที่อยู่อาศัย 2 โครงการ และ 3 แบบบ้าน, Rating AA Thailand Sustainability Investment (THSI) หรือ “หุ้นยั่งยืน” ประจำปี 2566, รางวัล BCI Asia Top 10 Developers Awards 2023 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 13, การจัดอันดับในกลุ่ม “ดีเลิศ” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 11 จากผลสำรวจการกำกับดูแลกิจการที่ดีบริษัทจดทะเบียนปี 2566, รางวัล CAC Change Agent Award 2023 ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2, ได้รับการประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น (AGM Checklist) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 11, โล่ประกาศเกียรติคุณการันตีบ้านประหยัดพลังงาน, รางวัลดีเด่น Thailand Energy Award 2023, รางวัล Sustainability Disclosure Recognition 2023 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5

ภาพรวมของบริษัทฯ ปี 2567 เป็นปีแห่งการขยายศักยภาพในมิติต่าง ๆ ขับเคลือนการลงทุนอสังหาริมทรัพย์มากขึ้นทั้งต่างประเทศและในประเทศ ซึ่งบริษัทฯ มีแผนเปิดตัวโครงการ มูลค่าโครงการ เป้ายอดขาย และมูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์มากที่สุด โดยตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 36,000 ล้านบาท รายได้รวม 36,000 ล้านบาท และงบประมาณการจัดซื้อที่ดิน 8,000 ล้านบาท นับว่าเป็นปีที่ทุบสถิติเปิดตัวโครงการใหม่สูงที่สุด มูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตั้งแต่บริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจมา มากถึง 42 โครงการ มูลค่ารวม 50,000 ล้านบาท ครอบคลุมทุกโปรดักส์ ทุกเซกเมนต์ ระดับราคารองรับทุกความต้องการ โดยโครงการแนวราบเปิดตัวมากสุดถึง 38 โครงการ มูลค่ารวม 43,500 ล้านบาท และโครงการอาคารชุด 4 โครงการ มูลค่ารวม 6,500 ล้านบาท พร้อมลุยเปิดตลาดอสังหาริมทรัพย์เพิ่ม 3 จังหวัดใหม่ในทำเลศักยภาพ ได้แก่ ลำปาง ราชบุรี ลพบุรี ทำให้พัฒนาโครงการ ครอบคลุมในทุกทำเลรวม 29 จังหวัด เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคทั่วทุกภูมิภาค และจะมีสิ่งใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น โดยบุกตลาดบ้านเดียวลักซ์ชัวรี เจาะลูกค้าระดับบนรวมทังการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย สร้างสรรค์แบบบ้านซีรีส์ใหม่ที่มาพร้อมนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืนเพิ่มมากขึ้น บริษัทฯ ได้พัฒนาคุณภาพสินค้า และนวัตกรรมที่อยู่อาศัยรักษ์โลกอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ มาจนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ ได้เปิดตัวโครงการไปแล้วทั้งสิ้น 441 โครงการ และมุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ตลอดระยะเวลา 35 ปีที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทฯ ยึดมั่นและให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการสร้างสมดุลที่เหมาะสมใน 3 มิติ ได้แก่ เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม โดยใช้หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีและการบริหารความเสี่ยง การสร้างสรรค์คุณภาพชีวิตของคนในสังคมให้ดียิ่งขึ้นด้วยจิตสำนึก ความรับผิดชอบต่อสังคมสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนตามกระบวนการ SDGs (Sustainable Development Goals) การสร้างสรรค์นวัตกรรมที่อยู่อาศัยควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมหลากหลายรูปแบบอย่างต่อเนื่อง ทั้งกิจกรรมด้านการให้ความรู้ การศึกษา ครอบครัว สุขภาพ สิ่งแวดล้อม และศิลปวัฒนธรรม และบริษัทฯ ยังคงยึดมั่นในหลักจริยธรรมและความถูกต้องตามกฎหมายไปพร้อมกับการพัฒนาคู่ค้าให้ครอบคลุมหลักการที่ดีทั้งห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) เพื่อสร้างประโยชน์แก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายรวมถึงสังคมโดยรวม เพื่อนำศุภาลัยก้าวไปข้างหน้า เติบโตอย่างมั่นคง พร้อมขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจทีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการจัดการพลังงานอย่างยั่งยืน รุกหน้าสู่เป้าหมายระยะกลางด้านสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 40% ภายในปี 2573 จาก BAU (Business As Usual)

(ดร. ประทีป ตั้งมติธรรม)

ประธานคณะกรรมการบริษัท

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)